วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ระบบร้านกาแฟ บทที่ 2 การศึกษาความเป็นไปได้


2.1ศึกษาปัญหาของระบบร้านกาแฟ
1.ขาดระบบตรวจสอบความผิดพลาดของวัตถุดิบ และอุปกรณ์ภายในร้านกาแฟ กรณีที่พนักงานทำสินค้าผิดพลาดหรือเสียหายจะทำให้ข้อมูลวัตถุดิบภายในคลังสินค้าคลาดเคลื่อน จึงทำให้ไม่ทราบปริมาณของสินค้าคงคลังได้
2.ขาดระบบที่ช่วยในการจดจำประวัติลูกค้าที่เป็นสมาชิกหรือลูกค้าทั่วไปที่เข้ามาใช้บริการ และระบบการตรวจสอบประวัติ เงินเดือน เงินภาษี เงินค่าล่วงเวลาของพนักงาน
3.ขาดระบบการเช็คยอดขายรายวันและรายสัปดาห์ ตรวจเช็คสินค้าภายในคลังสินค้าว่า มีเพียงพอกับความต้องการของลูกค้าหรือไม่ เพื่อสามารถนำไปประเมินเป็นสถิติยอดขายในแต่ละเดือน ทำให้ทราบว่า ช่วงเวลาหรือฤดูกาลใด ที่สินค้ากำลังได้รับความนิยม หรือ ไม่ได้รับความนิยมในช่วงนั้น ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของกิจการร้านกาแฟ สามารถเพิ่มยอดขายจนได้กำลังสูงสุดตามเป้าหมาย และช่วยให้ลดต้นทุนในการสั่งสินค้า เพราะจะได้ไม่สั่งสินค้าขาดหรือเกินจากจำนวนความต้องการของลูกค้า
4.ระบบการสั่งซื้อสินค้าไม่ครอบคลุมต่อความต้องการ ในส่วนของการสั่งซื้อสินค้านอกสถานที่ ( Delivery ) รวมถึงการตรวจสอบโปรโมชั่น ซึ่งแต่ละโปรโมชั่นจะมีส่วนลดที่หลากหลายและแตกต่างกันออกไป

2.2เสนอแนวทางการแก้ปัญหาของระบบร้านกาแฟ
แนวทางที่ 1

1.ปรับปรุงระบบร้านกาแฟให้สามารถตรวจสอบความผิดพลาดของวัตถุดิบ และอุปกรณ์โดยการใช้ระบบพนักงานคีย์ด้วยตัวเอง ในการตรวจสอบสินค้าที่เกิดความผิดพลาดเสียหาย โดยการใช้วิธีนี้จะทำหน้าที่ในการลบข้อมูลจำนวนของวัตถุดิบ ที่มีอยู่ในคลังสินค้าทำให้สามารถรู้ได้ว่ามีสินค้าคงคลังเหลืออยู่เท่าไร
2.ปรับปรุงระบบการสืบค้นข้อมูลเงินเดือนของพนักงานภายในร้านกาแฟ โดยการพัฒนาระบบเงินเดือนบนระบบเครือข่าย LAN แบบจุดต่อจุด เพื่อให้พนักงานสามารถสืบค้นตรวจสอบข้อมูลได้ด้วยตนเองและมีความสะดวกรวดเร็วในการใช้งานของพนักงาน
3.ปรับปรุงระบบร้านกาแฟให้สามารถตรวจสอบยอดขายรายวันหรือรายสัปดาห์ เพื่อนำไปประเมินเป็นสถิติยอดขายในแต่ละเดือนโดยการใช้ฐานข้อมูลแบบ My SQL ทำให้มีความสะดวกรวดเร็วในการตรวจสอบข้อมูลสถิติของยอดขายในแต่ละเดือน เพื่อเป็นประโยชน์ในการติดสินใจของเจ้าของร้านกาแฟ
4.ปรับปรุงระบบร้านกาแฟให้สามารถรองรับการสั่งซื้อสินค้านอกสถานที่ได้ โดยการใช้โปรแกรมภาษา Visual Basic (VB) มาสร้างระบบรับสั่งสินค้าภายในร้าน และตรวจสอบโปรโมชั่นได้ภายในร้านซึ่งระบบรับสั่งภายในร้านจะเชื่อมโยงกับระบบข้อมูลลูกค้าในส่วนที่อยู่ของลูกค้า

แนวทางที่ 2
1.ปรับปรุงระบบร้านกาแฟให้สามารถตรวจสอบความผิดพลาดของวัตถุดิบ และอุปกรณ์โดยการใช้ระบบ บาร์โค้ด ในการตรวจสอบสินค้าที่เกิดความผิดพลาดเสียหาย โดยการใช้วิธีนี้จะทำหน้าที่ในการลบข้อมูลจำนวนของวัตถุดิบ ที่มีอยู่ในคลังสินค้าทำให้สามารถรู้ได้ว่ามีสินค้าคงคลังเหลืออยู่เท่าไร
2.ปรับปรุงระบบการสืบค้นข้อมูลเงินเดือนของพนักงานภายในร้านกาแฟ โดยการพัฒนาระบบเงินเดือนบนระบบ Intranet เพื่อให้พนักงานสามารถสืบค้นตรวจสอบข้อมูลได้ด้วยตนเองและมีความสะดวกรวดเร็วในการใช้งานของพนักงาน
3.ปรับปรุงระบบร้านกาแฟให้สามารถตรวจสอบยอดขายรายวันหรือรายสัปดาห์ เพื่อนำไปประเมินเป็นสถิติยอดขายในแต่ละเดือนโดยการใช้ฐานข้อมูลแบบ Text ทำให้มีความสะดวกรวดเร็วในการตรวจสอบข้อมูลสถิติของยอดขายในแต่ละเดือน เพื่อเป็นประโยชน์ในการติดสินใจของเจ้าของร้านกาแฟ
4.ปรับปรุงระบบร้านกาแฟให้สามารถรองรับการสั่งซื้อสินค้านอกสถานที่ได้ โดยการใช้โทรศัพท์ตอบรับอัตโนมัติภายในร้าน และตรวจสอบโปรโมชั่นได้ภายในร้านซึ่งระบบรับสั่งภายในร้านจะเชื่อมโยงกับระบบข้อมูลลูกค้าในส่วนที่อยู่ของลูกค้า

แนวทางที่ 3
1.ปรับปรุงระบบร้านกาแฟให้สามารถตรวจสอบความผิดพลาดของวัตถุดิบ และอุปกรณ์โดยการใช้โปรแกรมภาษา Visual Basic (VB) มาสร้างปุ่มรายการในการเลือก ในการตรวจสอบสินค้าที่เกิดความผิดพลาดเสียหาย โดยการใช้วิธีนี้จะทำหน้าที่ในการลบข้อมูลจำนวนของวัตถุดิบ ที่มีอยู่ในคลังสินค้าทำให้สามารถรู้ได้ว่ามีสินค้าคงคลังเหลืออยู่เท่าไร
2.ปรับปรุงระบบการสืบค้นข้อมูลเงินเดือนของพนักงานภายในร้านกาแฟ โดยการพัฒนาระบบเงินเดือนบนระบบ Internet เพื่อให้พนักงานสามารถสืบค้นตรวจสอบข้อมูลได้ด้วยตนเองและมีความสะดวกรวดเร็วในการใช้งานของพนักงาน
3.ปรับปรุงระบบร้านกาแฟให้สามารถตรวจสอบยอดขายรายวันหรือรายสัปดาห์ เพื่อนำไปประเมินเป็นสถิติยอดขายในแต่ละเดือนโดยการใช้ฐานข้อมูลแบบ Access ทำให้มีความสะดวกรวดเร็วในการตรวจสอบข้อมูลสถิติของยอดขายในแต่ละเดือน เพื่อเป็นประโยชน์ในการติดสินใจของเจ้าของร้านกาแฟ
4.ปรับปรุงระบบร้านกาแฟให้สามารถรองรับการสั่งซื้อสินค้านอกสถานที่ได้ โดยการใช้ระบบ Internet และตรวจสอบโปรโมชั่นได้ภายในร้านซึ่งระบบรับสั่งภายในร้านจะเชื่อมโยงกับระบบข้อมูลลูกค้าในส่วนที่อยู่ของลูกค้า

2.3เสนอแนวทางการแก้ปัญหาของระบบร้านกาแฟ
1.ความเหมาะสมทางด้านเทคโนโลยี (Technically Feasible)
แนวทางที่ 1 ปัจจัยต่างๆด้านเทคโนโลยี มีพร้อมในระบบของร้านกาแฟเดิมอยู่แล้ว
แนวทางที่ 2 ปัจจัยต่างๆด้านเทคโนโลยี มีพร้อมในระบบของร้านกาแฟเดิมอยู่แล้ว
แนวทางที่ 3 ปัจจัยต่างๆด้านเทคโนโลยี มีพร้อมในระบบของร้านกาแฟเดิมอยู่แล้ว

2.ความเหมาะสมทางด้านการปฏิบัติ (Operational Feasibility)
แนวทางที่ 1 สามารถทำงานได้สะดวก ติดตั้งโปรแกรมได้ง่าย และเป็นที่ยอมรับ
แนวทางที่ 2 สามารถทำงานได้สะดวก ติดตั้งโปรแกรมได้ง่าย และเป็นที่ยอมรับ
แนวทางที่ 3 สามารถทำงานได้สะดวก ติดตั้งโปรแกรมได้ง่าย และเป็นที่ยอมรับ

3.ความเหมาะสมทางด้านการลงทุน (Economic Feasibility)

3.1ประมาณต้นทุนกำไร


3.2การประมาณค่าใช้จ่ายเนื้อหาสำหรับแนวทางต่างๆ

3.3วิเคราะห์มูลค่าปัจจุบันของแนวทางที่ 1

3.4วิเคราะห์มูลค่าปัจจุบันของแนวทางที่ 2

3.5วิเคราะห์มูลค่าปัจจุบันของแนวทางที่


3.6วิเคราะห์ระยะเวลาในการคืนทุน
แนวทางที่ 1 ระยะเวลาการคืนทุนปีที่ 6
แนวทางที่ 2 ระยะเวลาการคืนทุนปีที่ 3
แนวทางที่ 3 ระยะเวลาการคืนทุนปีที่ 3
2.4เลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุด
   เนื่องจากแนวทางทั้ง 3 แบบ เป็นแนวทางที่เหมาะสมทั้งในด้านเทคโนโลยี ด้านการปฏิบัติและด้านการลงทุน แต่เมื่อพิจารณาด้านการใช้งาน แนวทางที่ 1 มีข้อจำกัดในการใช้งานทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ที่ไม่สามารถใช้งานผ่านเว็บบราวเซอร์ได้ ส่วนแนวทางที่ 2 มีข้อจำกัดในการใช้งาน ที่ไม่สามารถใช้งานผ่านเว็บบราวเซอร์ได้และยังใช้ค่าใช้จ่ายที่สูง แต่แนวทางที่ 3 ไม่มีข้อจำกัดทางด้านฮาร์ดแวร์มากนัก ทั้งยังสามารถใช้งานผ่านเว็บบราวเซอร์ได้ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างแนวทางที่ 1 แนวทางที่ 2 และแนวทางที่ 3 จะพบว่าแนวทางที่ 3 จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุด ในการพัฒนาระบบร้านกาแฟ

ไม่มีความคิดเห็น: